- Peacock Bass(พี่ค๊อกแบส)
- ชื่อสามัญ: Peacock Bass
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Cichla ocellaris
- ชื่อไทย: กระพงลายเสือ, ปลาเสือ, ออสเซราลิส (ปลาตู้)
- เชื้อชาติ: บราซิล (ลุ่มแม่น้ำ อเมซอน และ โอริโนโค)
- สัญญาติ: ไทย (เกิดที่จังหวัดเพชรบุรี)
การ ทำรังวางไข่: พ่อแม่ปลาทำรังวางไข่ในแหล่งน้ำนิ่งที่พื้นเป็นดินกรวด วางไข่ครั้งละ 2000-3000 ฟอง พ่อแม่ปลาจะดูแลไข่ และลูกเป็นเวลาประมาณ 90 วัน ก่อนที่ลูกปลาจะโตขึ้น และกระจายตัวกันหาอาหารตามแหล่งที่มีสาหร่ายขึ้นรกชายฝั่ง
- อาหาร: กุ้ง หอย ปู ปลา ทุกอย่างที่เคลื่อนไหว และเข้าปากได้
- สถานะภาพในประเทศไทย: ทำรังวางไข่ ผสมพันธุ์ ประสพความสำเร็จในแหล่งน้ำธรรมชาติ
Peacock bass. เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์ Cichlidae. ในสกุล Cichla. มาจากภาษากรีก
Kichle.หมายถึงปลาทะเลที่มีฟันแหลมและสีสวยแถบทะเลเขตร้อนในตระกูล Labridae.
Kichle.หมายถึงปลาทะเลที่มีฟันแหลมและสีสวยแถบทะเลเขตร้อนในตระกูล Labridae.
- ปัจจุบันในธรรมชาติมีการระบุไว้ทั้งหมด 15 ชนิด. ดังนี้.
6 ชนิดแรกที่ถูกพบ.
- 1) Cichla ocellaris Schneider,1801.
- 2) Cichla temensisHumboldt,1821.
- 3) Cichla orinocensis Humboldt,1821
- 4) Cichla monoculus Spix & Agassiz,1831
- 5) Cichla nigro-maculata Jardine&Schomburgk, 1843.
- 6) Cichla intermedia Machado-Allison,1971.
9ชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบ และ บรรยายโดย Kullander,Seven O.และEfrem J.,G.Ferreira ตีพิมพ์วันที่ 1 ธันวาคม 2549
- 7) Cichla kelberi. Kullander & Ferreira,2006
- 8) Cichla jariina. Kullander & Ferreira,2006
- 9) Cichla melaniae. Kullander & Ferreira,2006
- 10) Cichla mirianae. Kullander & Ferreira,2006
- 11) Cichla pinima. Kullander & Ferreira,2006
- 12) Cichla piquiti. Kullander & Ferreira,2006
- 13) Cichla pleiozona. Kullander & Ferreira,2006
- 14) Cichla thyrorus. Kullander & Ferreira,2006
- 15) Cichla vazzoleri. Kullander & Ferreira,2006
ปลาในสกุล Cichla เป็นปลาหมอที่มีความใหญ่โตที่สุดในอเมริกาใต้ เนื่องจากแม่น้ำอเมซอนมีหลายหลายสาขาแบ่งย่อยออกไปทำให้ปลาในสกุลนี้มีความ หลากหลายตามไปด้วย ด้วยปากที่มีขนาดใหญ่ สายตาที่ดีเยี่ยม ลำตัวที่แข็งแกร่ง พละกำลังอันมหาศาล ทำให้พวกมันอยู่ในห่วงโซ่อาหารลำดับต้นๆของแม่น้ำนี้เลยก็ว่าได้
ชื่อ Peacock Bass มาจากลักษณะของหางที่มีความสวยงามคล้ายลายบนขนของนกยูง (Peacock)ซึ่ง ปลาสกุลนี้ ใช้โครงสร้าง และลวดลายในการแบ่งสายพันธุ์
+++++++++++++++++++++++++
- 1. Cichla ocellaris (Tacutu)
+++++++++++++++++++++++++
- 2.Cichla temensis – Tucunare (ชื่อเรียกพื้นเมือง)
ปลาชนิดนี้ที่เห็นรูปกันบ่อยจะมี2 แบบน่ะครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Paca
และ Assu
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 3.Cichla orinocensis (Taua or Borboleta )
มีจุดมาร์ค หรือ ocelli 3 จุด ไม่มีลายแถบดำระหว่างลำตัว ไม่มีจุดมาร์คที่แก้ม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 4.Cichla monoculus (Popoca หรือ Botao)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 5.Cichla nigro-maculata
ขนาดใหญ่สุด 26.3 ซม.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 6. Cichla intermedia
เอกลักษณ์ มีแถบดำ 8 แถบ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++

- 7.Chicla Kelberi
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 8.Cichla pleiozona
- 9.Cichla melaniae
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 10.Cichla mirianae
- 11.Cichla pinima
++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

- 12.Cichla piquiti
- 13.Cichla thyrorus
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 14.Cichla vazzoleri
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ในช่วงจับคู่ เพศผู้จะพัฒนาโหนกด้านหน้าศีรษะ ด้วยฮอร์โมนเพศชายทำให้โหนกนี้มีสีแดง ในขณะที่เพศเมียไม่มี เมื่อเลือกคู่ได้แล้ว ทั้งเพศผู้และเมียจะร่วมกันสร้างรัง จากการศึกษา รังนี้อาจจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2 เมตร และลึกถึง 39 นิ้ว ในขณะที่การทดลองเพาะพันธุ์พวกเขาในตู้ไม่สามารถทำได้ จึงเลือกบริเวณซอกหิน หรือ ซากไม้ขนาดใหญ่.

การศึกษานี้ทำให้นักวิชาการทราบข้อมูลบางอย่าง เช่น ปลา peacock bass. ขนาดประมาณครึ่งกิโล สามารถวางไข่โดยเฉลี่ย 3,712 ฟอง ขณะที่ตัวเมียขนาดน้ำหนักประมาณ 1.38 กิโลกรัม สามารถวางไข่ได้เฉลี่ย 10,355 ฟอง หรือ บางรายงานระบุว่าปลาเพศเมียที่เลี้ยงในตู้ขนาดไม่เกิน 12 นิ้ว สามารวางไข่ได้เฉลี่ย 1,600 ฟอง.
ลูกปลามีอัตรารอดขั้นต่ำ 10% แต่ถึงกระนั้น 10% นี้มีความหมายในอนาคตแน่นอน กล่าวคือ ในปัจจุบันแหล่งน้ำธรรมชาติที่เราคิดว่าเป็นระบบปิดของบ้านเราบางแห่งได้พบ เจ้าปลา peacock bass.นี้แล้ว ที่อาจดูวิตกเกินเหตุ ด้วยเหตุผลครงการหลุดรอดของไข่ หรือ ลูกปลาเหล่านี้ ลงสู่ระบบเปิด อย่างแม่น้ำ ลำคลอง ฯลฯ ครั้งนึง เราไม่เคยคิดว่า ปลาที่เราเลี้ยงในบ่ออย่าง ปลานิล หรือ แม้กระทั่ง ปลาที่ดูไร้ค่าอย่างปลาซัคเกอร์ จะพบเจอได้ตามแหล่งน้ำระบบเปิดทั่วไป.
นอกจากนี้ อย่างที่นักวิชาการได้ทำการศึกษา และที่น่ากังวลอีกอย่างคือปลาชนิดสามารถสืบพันธุ์ได้ในระดับอายุที่แตกต่าง กัน แสดงให้เห็นว่า ปลาชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้โตเต็มวัย ถึงจะเจริญพันธุ์.
ลูกปลามีอัตรารอดขั้นต่ำ 10% แต่ถึงกระนั้น 10% นี้มีความหมายในอนาคตแน่นอน กล่าวคือ ในปัจจุบันแหล่งน้ำธรรมชาติที่เราคิดว่าเป็นระบบปิดของบ้านเราบางแห่งได้พบ เจ้าปลา peacock bass.นี้แล้ว ที่อาจดูวิตกเกินเหตุ ด้วยเหตุผลครงการหลุดรอดของไข่ หรือ ลูกปลาเหล่านี้ ลงสู่ระบบเปิด อย่างแม่น้ำ ลำคลอง ฯลฯ ครั้งนึง เราไม่เคยคิดว่า ปลาที่เราเลี้ยงในบ่ออย่าง ปลานิล หรือ แม้กระทั่ง ปลาที่ดูไร้ค่าอย่างปลาซัคเกอร์ จะพบเจอได้ตามแหล่งน้ำระบบเปิดทั่วไป.
นอกจากนี้ อย่างที่นักวิชาการได้ทำการศึกษา และที่น่ากังวลอีกอย่างคือปลาชนิดสามารถสืบพันธุ์ได้ในระดับอายุที่แตกต่าง กัน แสดงให้เห็นว่า ปลาชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้โตเต็มวัย ถึงจะเจริญพันธุ์.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผิดพลาดประการใดช่วยชี้แนะด้วยครับ......ตกได้อย่าลืมเอากลับไปกินด้วยนะครับ
ผิดพลาดประการใดช่วยชี้แนะด้วยครับ......ตกได้อย่าลืมเอากลับไปกินด้วยนะครับ
ในช่วงวัยเยาว์ จากรายงานของอาจารย์ Sven O. Kullander ท่านใช้วิธีในการจำแนกแบบกว้างๆที่พอจะเข้าใจได้อย่างพื้นๆก่อน 2 วิธี
ตอบลบ1) ใช้การกระจาย หรือ Distribution.( ถ้ายึดหลักนี้แล้ว ถ้าแหล่งที่ได้มาไม่เคลียร์ คงยากที่จะฟันธงในชนิดนั้นๆได้ ยกเว้น เหล่าเทพฯ)
2) ใช้ลักษณะภายนอกที่ดูเห็นเด่นชัด.
ท่านแบ่งวัยเยาว์ออกเป็น 2 กลุ่ม และสมาชิกในแต่ละกลุ่ม พบกระจายในที่ต่างกันออกไปด้วยครับ.
กลุ่มแรก จะมีแต้มดำ 3 แต้มที่สีข้างลำตัว มีแถบดำเริ่มต้นที่แต้มสุดท้าย ลากตรงไปจนถึงแต้มดำที่ฐานของครีบหาง ในกลุ่มนี้มีสมาชิกคือ.
1)Cichla ocellaris Schneider,1801.
2)Cichla orinocensis Humboldt,1821
3)Cichla monoculus Spix & Agassiz,1831
4)Cichla nigro-maculata Jardine&Schomburgk, 1843.
5)Cichla kelberi. Kullander & Ferreira,2006
6)Cichla pleiozona. Kullander & Ferreira,2006
กลุ่มที่สอง แต้มดำ 3 แต้มที่สีข้างลำตัว มีแถบดำเริ่มจากส่วนหัวยาวพาดผ่านแต้มทั้งสาม ไปสุดฐานของครีบหาง จำนวนสมาชิกคือส่วนที่เหลืออีก 9 ชนิด ดังนี้
1)Cichla temensis Humboldt,1821.
2)Cichla intermedia Machado-Allison,1971.
3)Cichla jariina. Kullander & Ferreira,2006
4)Cichla melaniae. Kullander & Ferreira,2006
5)Cichla mirianae. Kullander & Ferreira,2006
6)Cichla pinima. Kullander & Ferreira,2006
7)Cichla piquiti. Kullander & Ferreira,2006
8)Cichla thyrorus. Kullander & Ferreira,2006
9)Cichla vazzoleri. Kullander & Ferreira,2006
เคยมีการตั้งคำถามว่า กลุ่มปลาชนิดนี้สามารถผสมข้ามสายพันธุ์ ได้หรือไม่นั้น จากความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง อันเนื่องจาก กลุ่มปลาหมอสี บ่อยครั้งที่เราสามารพบเห็นว่า ปลาสกุลเดียวกัน แต่คนล่ะชนิดก็อาจจะมีการผสมกัน แต่ ผลที่ได้ไม่นับว่ามาเป็นชนิดใหม่ได้ครับ. จากรายงานใน practical fishkeeping ก็เคยมีการพูดถึงในลักษณะทำนองเดียวกันมาแล้วครับผม.