27 พฤษภาคม 2552

เทคนิคการใช้ป็อบเปอร์ (Techniques used Popper)

เทคนิคการใช้ป็อบเปอร์ (Techniques used Popper)


เทคนิคการใช้เหยื่อปลอมแบบป๊อบเปอร์( Popper) นั้น พื้นฐานการใช้มิได้ยุ่งยากอะไรมากมาย หลักการของมันนั้นคล้ายคลึงการเหวี่ยงเหยื่อทั่วไปนั่นเอง และในปัจจุบันการใช้เหยื่อป๊อบเปอร์ถูกเลือกเอาไปใช้งานกับการตกปลาขนาดใหญ่มาก ไซส์ระดับ 20-50 ก.ก. จึงทำให้การใช้เหยื่อปลอมชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่รูปทรงและขนาดของเหยื่อ และแม้กระทั่ง ตัวเบ็ด คัน รอก และสายเบ็ดก็ต้องถูกพัฒนาคิดค้นไปตามๆกัน ซึ่งในวงการป๊อบเปอร์จะเน้นพัฒนาทางด้านชุดสปินนิ่งเพียงด้านเดียว ก็เพราะว่าการเหวี่ยงเหยื่อตีป๊อบเปอร์ นั้นชุดสปินนิ่งใช้งานได้คล่องตัวและครอบคลุมมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับการจิ๊กกิ้งน้ำลึกได้อีกด้วย


จุดที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคงเป็นที่ตัวเหยื่อ ซึ่งแต่เดิมเป็นเหยื่อในกลุ่มปลาปลอมหรือปลั๊ก (Plug)ที่มีขนาดเล็กเพียง 3-5 นิ้ว ก็ได้ปรับปรุงเป็นเหยื่อป๊อบเปอร์(Popper)ที่มีความยาวเพิ่มขึ้น บางรุ่นยาวเกินกว่า 10 นิ้วก็มี ซึ่งแน่นอนตัวเหยื่อก็ต้องมีสมรรถภาพสามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อกรกับปลากระมงไซส์ 20 โลขึ้นได้เป็นอย่างดี


ปัจจุบันเหยื่อPopper ขนาดใหญ่นี้สามารถผลิตได้ในบ้านเราเอง อีกทั้งยังสามารถส่งออกต่างประเทศและเป็นที่ยอบรับอย่างเป็นสากล ที่รู้ๆก็ของโปรกิ๊กละ่ครับ ซึ่งสนนราคาก็ต้องบอกว่าเหมาะสมกับคุณภาพง่ายๆก็คือ สมน้ำสมเนื้อครับ ส่วนของการพัฒนาเหยื่อPopper ก็ไม่ได่มีอะไรแหวกแนว เพียงเพิ่มความแข็งแกร่งแข็งแรงขององค์ประกอบต่างๆ อาทิแกนลวดกลางตัวเหยื่อที่มีห่วงเอาไว้คล้องตัวเบ็ดละสายหลีดเดอร์ ซึ่งถูกเพิ่มขนาดให้ใหญ๋ขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะตัวเบ็ดสามทาง (Treble Hook) จะต้องเป็นชนิดที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นนอนจะต้องแลกมาด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม(แต่ก็คุ้มน่า)


เมื่อมีการพัฒนาในส่วนตัวเหยื่อแล้ว การปรับปรุงพัฒนาสายหน้าหรือสายหลีดเดอร์ก็ต้องปรับปรุงควบคู่กันไป ปกติการใช้สายหลีดเดอร์ต่อกับสายเบ็ดด้วยลูกหมุนหรือคล้องด้วยลูกหมุนคลิปทางด้านหนึ่ง และผูกกับตัวเบ็ดหรือคล้องกับเหยื่อปลอมอีกทางปลายด้่านหนึ่งเพื่อตกปลาทั่วไปนั้นเป็นเรื่องธรรมดาปกติอยู่แล้ว แต่กับการเหวี่ยงเหยื่อหรือตีเหยื่อPopperไม่นิยมใช้วิธีนี้ เพราะจะกำหนดความยาวในการเหวี่ยงเหยื่อได้ยาก เนื่องจากถ้าใช้ลูกหมุน มันจะไปติดกับไกด์ตัวปลายคัน ดังนั้นชุดหลีดเดอร์หรือสายหน้าที่ใช้กับเหยื่อPopperนี้จึงต่างออกไป

Photobucket

เทคนิควิธีการมัดสายหลีดเดอร์หรือสายหน้าตีป๊อบเปอร์นั้น มีมากมายหลายวิธี และที่บ้านเรานิยมใช้ ก็มีแบบ วายออน(Wind-On Leader) คือใช้สายหลีดเดอร์ต่อกับสายเบ็ดโดยตรงเลย ไม่มีลูกหมุนมาเป็นส่วนประกอบระหว่างสายหลีดเดอร์กับสายเบ็ด วิธีต่อสายหลีดเดอร์กับสายเบ็ดก็ใช้วิธีผูกเงื่อนเหมือนกับมัดเบ็ดทั่วไป เช่นเงื่อน Blood KNOT หรือ Uni Knot จุดด้อยของการต่อแบบผูกเงื่อนอยู่ตรงที่ปมเงื่อนจะสะดุดกับไกด์ที่คันเบ็ด เวลาหมุนเก็บสายจนสายหลีดเดอร์เข้ามาถึงตัวรอก จึงต้องมีการพันเชือกเคลือบขี้ผึ้งให้ตัวเงื่อนเรียบเป็นเนื้อเดียวกัน



ที่เรียกว่า วายออน(Wind-On Leader) นี้ก็หมายถึง การม้วนเก็บสายหลีดเดอร์ผ่านตัวไกด์ไปยังตัวรอกได้เลย ประโยชน์ของมันคือ นักตกปลาลำพังเพียงคนเดียวสามารถเอื้อมไปจับสายหลีดเดอร์ ดึงปลาขึ้นจากน้ำหรือใช้ตะขอเกี่ยวปลาได้ด้วยตัวเอง หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้สายหลีดเดอร์ยาวเช่นนั้น ตามกติกาสากล เขาให้ใช้สายหลีดเดอร์ยาวได้ถึง 30 ฟุต ก็เพื่อให้ผู้ช่วยนักตกปลาช่วยจับสายหลีดเดอร์ดึงปลาเข้ามาได้(แต่เขาห้ามผู้ช่วยจับสายเบ็ดตกปลา) ทั้งนี้นักตกปลาส่วนมากใช้สายหลีดเดอร์ใหญ่กว่าสายเบ็ดที่ใช้อยู่แล้ว มันจึงแข็งแรงพอจะดึงปลาขึ้นจากน้ำได้ จึงทำให้สายหลีดเดอร์ วายออน(Wind-On Leader)ได้รับความนิยมกับนักตกปลาบางกลุ่ม

Shock Leader


เป็นที่รู้กันดีว่า การตีเหยื่อPopperนั้น นักตกปลาเลือกใช้สายเบ็ดแบบ พีอี (PE ) เป็นหลักการที่จะต่อสายเบ็ดพีอีเข้าด้วยกัน (กรณีใช้สายพีอี ขนาดใหญ่ทำสายหลีดเดอร์) ก็ใช้วิธีผูกเงื่อนธรรมดาเช่นกัน แต่กรณีนักตกปลาบางกลุ่มต้องการให้เกิดความยืดหยุ่น รองรับแรงกระชากจากปลา มักจะเลือกสายเอ็นไนล่อน มาต่อกับสายพีอี การใช้สายหลีดเดอร์แบบนี้เรียกว่า ช็อคหลีดเดอร์(Shock Leader)


การต่อสายเอ็นไนล่อนเข้ากับสายพีอี ด้วยวิธีผูกเงื่อนธรรมดาจะทำได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเลือกใช้สายเอ็นไนล่อนขนาด 100 ปอนด์ขึ้นไปเป็นสายหลีดเดอร์ จึงต้องมีวิธีต่อแบบพิเศษ ซึ่งนักตกปลาบ้านเราได้ปรับปรุงวิธีต่อสายพีอีกับสายเอ็นไนล่อนต่างกันออกไปบ้างในแต่ละกลุ่ม แต่ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

โปรดติดตามตอนที่ 2 (นานๆนี้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ

เชิญแวะที่:
thainitaห้นย

จ้าวน้อยฟิชชิ่ง ตกปลาฮาเฮ เร่ไปเพราะใจสั่งมา © 2009. Powered by  MyPagerank.Net