
- วงศ์ปลาหมู (Cobitidae)
เป็นปลาที่ไม่มีฟันที่ลำคอและขากรรไกร มักอาศัยอยู่ในบริเซรที่น้ำไหลแรง เช่น ต้นน้ำลำธารบนภูเขาหรือน้ำตก มักอาศัยในระดับพื้นท้องน้ำใกล้ซอกหิน หรือโพรงไม้ โดยพบเป็นฝูงใหญ่ กินอินทรียสารและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร บางชนิดสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
พบได้กว้างขวางตั้งแต่ทวีปยุโรป ยูเรเชียจนถึงทวีปเอเชีย แบ่งออกเป็นวงศ์ย่อยได้ 2 วงศ์ คือวงศ์ Botiinae กับ วงศ์ Cobitinae รวมทั้ง 2 วงศ์มีสกุลทั้งหมด 27 สกุล (Botiinae 7 สกุล ส่วน Cobitinae 20 สกุล) ในประเทศไทยพบไม่น้อยกว่า 30 ชนิด ซึ่งในภาษาไทยจะเรียกปลาในวงศ์นี้รวม ๆ กันว่า "ปลาหมู" หรือ "ปลาค้อ" และในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า "loaches"
มีความสำคัญคือ นิยมบริโภคในบางสกุล บางสายพันธุ์ อีกทั้งยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาตู้สวยงามด้วย
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
1.>วงศ์Botiinae
สกุลYasuhikotakia 9 ชนิด
สกุลYasuhikotakia 9 ชนิด
1.) ปลาหมูขาว
- ชื่อไทย หมูขาว หมูหางแดง หมูหางเหลือง
- ชื่อสามัญ Red-finned Loach, Blue Botia, Redtail Botia.
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia modesta
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 23.5 เซนติเมตร
ปลาหมูขาวมีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุลปลาหมูที่พบในประเทศไทย เท่าที่เคยพบมีขนาด 23.5 เซนติเมตร แต่ขนาดที่พบโดยทั่วไปมีความยาวเฉลี่ย 10 - 25 เซนติเมตร ลักษณะของลูกปลาหมูขาวขนาดเล็กจะแตกต่างกับปลาชนิดอื่นๆ คือ ส่วนหลังจะโค้งลาดเหมือนพ่อแม่ปลา และบริเวณกลางลำตัวจะมีลักษณะสีดำทอดไปตามความยาวของตัวปลา เมื่ออายุได้ 45 - 60 วัน และแถบสีดำที่พาดขวางลำตัวจะหายไปเมื่อลูกปลาโตขึ้นหรือมีอายุประมาณ 5 เดือน บุญยืนและวัฒนา (2533
การเพาะพันธุ์
ฤดูการผสมพันธุ์ของปลาหมูขาว ตามธรรมชาติจะอยู่ช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนประมาณเดือน มีนาคม – กันยายน คัดเลือกแม่พันธุ์ปลาหมูขาวที่สมบูรณ์ที่สุดโดยสังเกตลักษณะของท้อง ซึ่งจะอูมเป่งและช่อเกิดสีชมพูเรื่อ ๆ ส่วนปลาตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าและลำตัวเพรียวกว่า บีบที่ช่องเปิดเบา ๆ จะมีน้ำเชื้อสีขาวขุ่นไหลออกมา ใช้ต่อมใต้สมองปลาไนฉีดครั้งเดียวในจำนวน 1.5 เท่า ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพศเมีย ทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง นำปลามารีดไข่ผสมน้ำเชื้อ ไข่จะมีลักษณะกลมสีเทาอมเขียวใกล้เคียงลักษณะไข่ปลาตะเพียน ไข่เป็นประเภทครึ่งลอยครึ่งจม ไข่ปลาหมูขาวใช้เวลาฟัก 12 ถึง 18 ชั่วโมง ในตู้กระจกที่อุณหภูมิของน้ำประมาณ 27 องศาเซลเซียสการอนุบาลลูกปลา
นำลูกปลาหมูขาวที่ฟักออกเป็นตัวแล้ว มาอนุบาลต่อในมุ้งโอล่อน ขนาด 1 X 1 เมตร2 ซึ่งแขวนไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาด 2 X 5 เมตร2 ในโรงเพาะฝักเมื่อลูกปลาอายุ 3 วัน ถุงอาหารยุบจึงเริ่มให้ไข่ต้มสุกบดละเอียดละลายน้ำสาดให้กินวันละ 5 ครั้ง ถ่ายน้ำ 1 ใน 3 ของบ่อทุกวัน ตอนเช้าของวันที่ 7 จึงเริ่มให้ไรแดงมีชีวิตเป็นอาหารวันละ 3 ครั้ง โดยใช้แก้วใสตักน้ำในมุ้งอนุบาลตรวจความหนาแน่นของไรแดงอยู่เสมอ เพื่อให้พอเพียงกับความต้องการของลูกปลา ลักษณะของลูกปลาหมูขาวขนาดเล็กจะแตกต่างกับปลาชนิดอื่นคือ ด้านหลังจะโค้งลาดเช่นพ่อแม่พันธุ์ และบริเวณลำตัวจะมีสีดำทอดไปตามความยาวของตัวปลา เมื่ออายุได้ 20 วัน จะพบแถบสีดำพาดขวางลำตัวประมาณ 7 – 8 แถบ และสีลำตัวจะออกสีเหลืองอ่อน ๆ ลูกปลาจะมีลักษณะเหมือนพ่อแม่พันธุ์ เมื่ออายุได้ประมาณ 45 – 60 วัน และสีดำที่พาดขวางลำตัวจะหายไปเมื่อลูกปลาโตขึ้น หรืออายุได้ประมาณ 5 เดือน
- ถิ่นอาศัย
- อาหาร
กินแมลง ตัวอ่อนแมลง ซากสัตว์และพืชที่เน่าสลาย
- ขนาด
ความยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดมีความยาวถึง 25 เซนติเมตร
- ประโยชน์
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เนื้อมีรสชาติดีและใช้ปรุงอาหารได้ดี
ปลาหมูหางเหลือง
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 2.ปลาหมูค้อ
- ชื่อไทย หมูค้อ หมูก้อ หมูคอก
- ชื่อสามัญ Skunk botia
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia morleti
- ปลาหมูคอกพบได้ในแม่น้ำโขง เจ้าพระยา
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 4 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 3.) ปลาหมูสัก
- ชื่อไทย หมูสัก
- ชื่อสามัญ Silver loach
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia lecontei
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 10 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 4.) ปลาหมูหางจุด
- ชื่อไทยหมูหางจุด
- ชื่อสามัญ Speckle-tailed Loach.
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia caudipunctata
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 4 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 5.) ปลาหมูหางแต้ม
- ชื่อไทย หมูหางแต้ม
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia splendida
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 4 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 6.) ปลาหมูอารีย์
- ชื่อไทย หมูอารีย์
- ชื่อสามัญ Dwarf Loach
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia sidthimunki
ในธรรมชาติพบปลาหมูอารีย์อาศัยอยู่บริเวณพื้นท้องน้ำที่มีพืชน้ำ หาดน้ำตื้น ซึ่งมีกระแสน้ำเชี่ยว น้ำถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา คุณสมบัติของน้ำดี จากรายงานพบว่า ปลาหมูอารีย์เคยพบชุกชุมที่แม่น้ำแม่กลอง แควน้อย จังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ และลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง ที่เมืองปากเซ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ปัจจุบันพบปลาชนิดนี้เฉพาะลำธาร ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเท่านั้นได้แก่ ที่บริเวณแม่น้ำว้า อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดน่านได้เริ่มทำการศึกษาชีววิทยาบางประการของปลาหมู อารีย์ เพื่อพัฒนาเทคนิค การเพาะขยายพันธุ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ผสมเทียมเมื่อเดือน มิถุนายน 2542 โดยการฉีดฮอร์โมนสังเคราะห์
การเพาะปลาหมูอารีย์ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่สถานีประมงน้ำจืดจังหวัด น่าน โดย นายวิวัฒน์ ปรารมภ์ หัวหน้าสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดน่าน และคณะ นำพ่อแม่พันธุ์อายุ 2 ปี 3 เดือน ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ผสมเทียมเมื่อเดือนมิถุนายน 2542 มาเพาะพันธุ์โดยการฉีดฮอร์โมนสังเคราะห์ สามารถกระตุ้นให้แม่ปลาตกไข่ได้ในเวลา 14 - 15 ชั่วโมง เป็นไข่ครึ่งจมครึ่งลอยลักษณะกลมสีขาวอมเหลือง ฟักออกเป็นตัวภายใน 12 - 13 ชั่วโมง ลูกปลามีความยาว 3.06 มิลลิเมตร และมีการพัฒนารูปร่างเหมือนโตเต็มวัยเมื่ออายุได้ 50 วัน ปัจจุบันลูกปลามีอายุ 2 ปี
อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า การเพาะและอนุบาลปลาหมูอารีย์ของกรมประมง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเลี้ยงลูกปลา รุ่นที่ 2 ให้เป็นพ่อแม่พันธุ์เพื่อตกลูก รุ่นที่ 3 หากทำสำเร็จในหลักพันธุกรรมถือว่าเป็นการอนุรักษ์แบบสมบูรณ์ที่สัตว์ประเภท นี้ จะไม่สูญพันธุ์ไปจากโลก ซึ่งผลการทดลองขณะนี้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากปลาสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเลี้ยงในตู้ กระจกได้มากขึ้นและสามารถเจริญพันธุ์จนมีไข่ได้ คณะผู้วิจัยจะได้ทำการเพาะพันธุ์ในรุ่นต่อๆ ไปให้ได้ปริมาณเพิ่ม มากขึ้นและทดลองเลี้ยงให้ปลามีสีสันที่สวยงามเหมือนในธรรมชาติต่อไป มั่นใจว่าในอนาคตกรมประมงจะสามารถ ถอดปลาหมูอารีย์ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์น้ำห้ามครอบครอง และห้ามจำหน่าย มาเป็นสัตว์น้ำคุ้มครองที่จำหน่าย ได้จากการเพาะพันธุ์ ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ นายวิวัฒน์ ปรารมภ์ หัวหน้าสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดน่าน ตำบลกองควาย อำเภอเมือง จังหวัดน่าน หมายเลขโทรศัพท์ 0 - 5479 - 3010 ในวันและเวลาราชการ ๏
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 7.) ปลาหมูน่าน
- ชื่อไทย หมูน่าน หมูน้ำว้า บง หมูงวง
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia nigrolineatus
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 10-12 เซนติเมตร
ถูกค้นพบครั้งแรกที่แม่น้ำโขง ในเมืองหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน สำหรับในประเทศไทยพบได้ที่แม่น้ำว้า อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
ปลาหมูน่านเคยถูกสับสนว่าเป็นปลาหมูอารีย์ ด้วยเหตุที่มีรูปร่างและสีสันคล้ายคลึงกัน รวมทั้งเคยถูกจับส่งขายเป็นปลาสวยงามโดยใช้ชื่อของปลาหมูอารีย์ด้วย ดังนั้นจึงได้รับฉายาวงการปลาสวยงามว่า "ปลาหมูอารีย์ปลอม"
มีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า "บง" หรือ "หมูงวง"
ความแตกต่างระหว่างปลาหมูอารีย์ กับปลาหมูน่าน คลิ้กเลยครับ
ความแตกต่างระหว่างปลาหมูอารีย์ กับปลาหมูน่าน คลิ้กเลยครับ
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 8.) ปลาหมูค้อลายแถบ
- ชื่อไทย
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia longidorsalis
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 3 นิ้ว (8 ซ.ม.)
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 9.) ปลาหมูแดง
- ชื่อไทย หมูแดง
- ชื่อสามัญ Sun loach
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Yasuhikotakia eos
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 4.25 นิ้ว (11ซ.ม.)
<<<<<<<<<<++++++++*+*++++++++>>>>>>>>>>>
สกุลSyncrossus 3 ชนิด
- 1.) หมูข้างลาย
- ชื่อไทย หมูข้างลาย หมูท่อก เขี้ยวไก้ แข้วไก้
- ชื่อสามัญ TIGER LOACH
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Syncrossus helodes
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 12 นิ้ว
ครีบหู ครีบท้อง และครีบก้นเป็นสีเหลืองสด หรือ ส้มเหลือง มีจุดเล็กเรียงไปตามแนวลำตัว เป็นปลาที่มีรสอร่อยมาก ไม่มีก้างฝอย ขนาดตัวยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร จะหากิน ตามพื้นท้องน้ำตามโขดหินและก้อนหินลักษณะทั่วไป
- ถิ่นอาศัยในแหล่งน้ำไหล แม่น้ำ ลำคลอง ชอบซุกซ่อนตามตอไม้ ซอกหิน และพื้นดินโคลน
- อาหาร แมลงและตัวอ่อนของแมลง ไส้เดือน
- ขนาดความยาวประมาณ5-30 เซนติเมตร
- ประโยชน์
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 2.) ปลาหมูจุด
- ชื่อไทย ปลาหมูจุด หมูเสือ หมูลายเสือ
- ชื่อสามัญ Spotted loach
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Syncrossus beauforti
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 7 นิ้ว
ปลาหมูจุดมีลักษณะลำตัวเรียวยาว แบนข้าง เกล็ดมีขนาดเล็ก เป็นเกล็ดแบบ cycloid ที่ฝังแน่นอยู่ในผิวหนัง ส่วนหัวแหลมค่อนข้างยาว ความยาวหัวมากกว่าความลึกลำตัว มีหนวด 3 คู่ ความยาวใกล้เคียงกัน อยู่ที่ปลายจะงอยปาก 2 คู่ และขากรรไกรบน 1 คู่ ปากมีขนาดเล็กตั้งอยู่ในระดับต่ำกว่าจะงอยปาก (inferior mouth) ครีบหลังประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบอกประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 14 ก้าน ครีบท้องประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบก้นประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 5 ก้าน มีเส้นข้างตัวสมบูรณ์อยู่ในแนวกลางลำตัว
ปลาหมูจุดหรือปลาหมูลายเสือ เป็นปลาท้องถิ่นชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในระบบแม่น้ำของจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะในแม่น้ำแควน้อยตั้งแต่บริเวณที่กำลังก่อสร้างเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นไปจนถึงต้นน้ำ พบเฉพาะตามโขดหินที่มีกระแสน้ำไหลเอื่อยๆ
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 3.) ปลาหมูจักพรรดิ์
- ชื่อไทย หมูจักพรรดิ์ หมูจุดพม่า
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Syncrossus berdmorei
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 10 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
สกุลBotia 3ชนิด
- 1.) ปลาหมูลายเมฆ
- ชื่อไทย หมูลายเมฆ
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Botia kubotai
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 5 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 2.) หมูพม่าลายแถบ
- ชื่อไทย หมูพม่า หมูพม่าลายแถบ หมูม้าลาย
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Botia histrionica
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 5 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- 3.) หมูพม่าลายคู่
- ชื่อไทย
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Botia aff. rostrata
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
- สกุลSinibotia 1 ชนิด
- 1.) ปลาหมูยูนาน
- ชื่อไทย หมูยูนาน
- ชื่อสามัญ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Sinibotia longiventralis
- ขนาดใหญ่สุดที่พบ 4 นิ้ว
<<<<++++++++*+*++++++++>>>>
ขออภัยครับข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ใครมีข้อมูลรบกวนช่วยผมด้วยครับ
คลิ้กที่นี่เพื่ออ่านต่อ......